วันนี้ iFatter บล็อกลดความอ้วน ก็เลยขอนำข้อมูลเกี่ยวกับ ช็อคโกแลต chocolate มาฝากนะคะ เพื่อจะได้ไม่เผลอกินไป มองหน้ากันไป จนลืมตัวไปว่า ถ้า กินช็อคโกแลต chocolate มากเกินไป จะกลายเป็นการเพิ่มน้ำหนัก เพิ่มความอ้วนโดยไม่รู้ตัวนะคะ
คนส่วนใหญ่ มักเชื่อกันว่า การมอบ ช็อคโกแลต ให้กันในวันวาเลนไทน์ นั้น หากคนรักของเราได้กินช็อคโกแลตแล้ว จะทำให้หลั่งสารแห่งความสุข หรือสารเอนโดรฟินได้ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว ช็อคโกแลต จัดเป็นอาหารที่ให้ความหวานสูง เพราะประกอบด้วยน้ำตาลซูโครสและฟรุกโตสถึงร้อยละ 90 และถือเป็นสารให้พลังงานสูญเปล่า เพราะร่างกายต้องการพลังงานจากแหล่งอื่นมากกว่าน้ำตาล
หมายความว่า ในการทานอาหารหนึ่งมื้อนั้น ร่างกายควรจะได้พลังงานไม่เกิน 500-600 กิโลแคลอรี ซึ่งหากวันใดที่ร่างกายเรารับพลังงานจากน้ำตาล เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด ร่างกายก็จะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันเก็บสะสมไว้ใต้ผิวหนัง หลอดเลือดและตับ นั่นจึงเป็นสาเหตุของการเป็นโรคอ้วนลงพุง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคความดัน และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ อีกมากมาย
กินช็อคโกแลต 1 แท่ง ให้พลังงานมากถึง 260 กิโลแคลอรี ดังนั้น หากอยากกินช็อคโกแลต หรือ จำเป็นต้องกินช็อคโกแลตจริงๆ (เพื่อไม่ให้คนรักเสียใจ น้อยใจ) ก็กินได้ แต่อย่ากินมากเกินไป ท่องไว้ๆๆ ว่า หากกินเข้าเยอะ นั่นหมายถึง กินเข้าไปเพื่อเพิ่มไขมัน เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มความอ้วน
แต่หากแฟนที่รัก เป็นคนขี้งอน ขี้น้อยใจ หรือหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ แม้จะกำลังพยายามลดความอ้วนอยู่ ก็กินเข้าไปเถอะครับ แล้วก็บวกลบคูณหาร กันดูนะคะ ว่า หากกินช็อกโกแลต 1 แท่ง ก็จะต้องไปออกกำลังกายด้วยการเดินเร็ว 45 นาที หรือว่ายน้ำ 15 นาที จึงจะเผาผลาญพลังงานได้หมด ถ้ากินหลายแท่ง ก็... คิดเอาเองก็แล้วกันนะคะ